นกทึดทือพันธุ์เหนือ Brown Fish-Owl
ชื่อทางวิทยาศาสตร์: Ketupa zeylonensis (ไม่รู้จะเรียกว่า Eagle Owl ได้ไหม)
ลักษณะทั่วไปเป็นนกขนาดใหญ่ ตัวผู้และตัวเมียมีลักษณะเหมือนกัน ขนลำตัวด้านบนมีสีน้ำตาลแดง ด้านล่างมีสีอ่อนกว่า บริเวณเหนือตามีขนยาวยื่นออกไปทั้งสองข้าง ขนตรงท้องมีสีเนื้อ แต้มด้วยลายขีดสีน้ำตาลแก่ นอกจากนี้ยังมีลายตามขวางเป็นเส้นบางๆ สีน้ำตาลอ่อน มีตาสีเหลืองกลมโต
ถิ่นอาศัย, อาหารพบในทวีปเอเชียแถบประเทศจีน ไต้หวัน มาเลเซีย ในประเทศไทยพบอยู่ทุกภาค ยกเว้นภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงใต้
อาหารได้แก่ สัตว์เลื้อยคลาน นก และแมลงขนาดใหญ่
พฤติกรรม, การสืบพันธุ์ชอบอาศัยอยู่ตามป่าใกล้ลำธาร ทะเลสาบและใกล้ท้องทุ่งนา มักออกหากินเพียงตัวเดียวทั้งกลางวันและกลางคืน หรือเป็นคู่ในช่วงฤดูผสมพันธุ์
นกทึดทือพันธุ์เหนือเริ่มผสมพันธุ์ในช่วงเดือนธันวาคม - มีนาคม นกชนิดนี้ไม่ทำรังแต่จะวางไข่ตามซอกหินบริเวณหน้าผาหรือตามโพรงไม้ สูงจากพื้นไม่เกิน 30 เมตร วางไข่ครั้งละ 1-2 ฟอง มักทำรังที่เดิมทุกปี
สถานภาพปัจจุบัน
เป็นนกประจำถิ่นตามธรรมชาติ หาพบได้น้อยเกือบทุกภาค ยกเว้นภาคตะวันออก และภาคใต้ จัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535
'''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''
นกทึดทือมลายู (Buffy Fish Owl)
นกเค้าแมวพันธุ์มลายู หรือ นกฮูกมลายู และอีกชื่อหนึ่ง...นกทึดทือมลายู (Buffy Fish Owl) ถิ่นกำเนิดพบครั้งแรกที่เกาะชวา ประเทศ อินโดนีเซีย กระจายพันธุ์ใน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และหมู่เกาะซุนดาใหญ่ เมื่อสำรวจไปทั่วโลกพบว่ามี นกเค้าแมวพันธุ์มลายู 4 ชนิดย่อย ในประเทศไทยพบ 1 ชนิดย่อย คือ Ketupa ketupu aagaardi neumann โดยพบครั้งแรกที่ จังหวัดนราธิวาส
นกเค้าแมวมลายู มี ลักษณะหน้าตาคล้ายแมว เป็นนกขนาดกลาง 49-50 ซม. ปีกสั้นกว่า 40 ซม. ดวงตาสีเหลืองจนถึงเหลืองแกมทอง มีขนเหนือคิ้วเป็นแผง ยาวออกไปด้านข้างทั้งสอง ด้าน ส่วนขนบริเวณเหนือโคนปากเป็นสีขาว ลำตัวด้าน บนสีน้ำตาลมีลายสีจางกระจาย ด้านล่างสีเนื้อแกมน้ำตาลเหลือง มีลายขีดสีดำ เมื่อ หุบปีกจะเห็นลายแถบสีน้ำตาลจางสลับสีเข้มบริเวณปลายปีก ขาสีเขียว มีเล็บโค้งแหลม และมีปากงุ้มแหลม
ส่วนการผสมพันธุ์ในช่วงฤดูหนาวต่อฤดูร้อน ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเมษายน จากนั้นจึงพากันไปทำรังอยู่ในโพรงไม้ หรือใช้รังเก่าของนกอื่นๆ มักอาศัยอยู่ตามป่าดิบแล้ง ป่าดงดิบชื้น ตั้งแต่ระดับพื้นราบ จนกระทั่ง ความสูง 800 เมตรจากระดับน้ำทะเล ใกล้แหล่งน้ำ ลำธารในป่า และบริเวณใกล้ฝั่งทะเล ส่วนใหญ่หากินในเวลากลางคืน ชอบจับสัตว์เล็กๆกิน โดยอาหารของมันจะเป็น ปลา กบ ปู ค้างคาว นก และสัตว์เลื้อยคลานเกือบทุกชนิด
อ้างข้อมูลจาก ไชยรัตน์ ส้มฉุน
ไทยรัฐ Adlink
'''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''
นกเค้าใหญ่พันธุ์เนปาล (เป็นนกเค้าที่ใหญ่ที่สุดในไทย)
Spot-bellied Eagle-Owl. (Bubo nipalensis)
หรือ Forest Eagle-Owl
ลักษณะทั่วไป
เป็นนกเค้าขนาดใหญ่มาก ความยาวลำตัวประมาณ 61 เซนติเมตร ปากสั้นงุ้มสีเหลืองอ่อน มีขนหูยาวชันขึ้น ขนหัวและบนลำตัวสีน้ำตาล ช่วงท้องและด้านล่างลำตัวสีขาวและมีลายจุดรูปหัวใจ
นิสัย
นกเค้าชนิดนี้มักอาศัยอยู่ตามป่าดงดิบตามภูเขาและป่าใกล้ลำธารใหญ่ ๆ มักอยู่ตัวเดียวหากินตั้งแต่ตอนเช้าถึงพลบค่ำและตอนกลางคืน กลางวันจะเกาะพักตามต้นไม้ที่มีใบหนาทึบ หรือตามโพรงไม้
ถิ่นอาศัย
อินเดีย จีน พม่า เทือกเขาตะนาวศรี เขมร เวียดนาม ลาว และในประเทศไทยมีทางภาคตะวันตก ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (พบบ่อยๆที่เขาใหญ่)
อาหาร
ไก่ป่า ไก่ฟ้า กระต่ายป่า ลูกเก้ง ลิง หนู ค้างคาว นก งู ปลาชนิดต่างๆ
การสืบพันธุ์
ผสมพันธุ์เดือนกุมภาพันธุ์ - มิถุนายน โดยทำรังในโพรงไม้ วางไข่ครั้งละ 1 ฟอง
สถานภาพปัจจุบัน
สัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535http://thaimisc.pukpik.com/freewebboard/php/vreply.php?user=narongrith&topic=775'''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''
นกเค้าใหญ่พันธุ์ สุมาตราชื่อสามัญ Barred Eagle Owl
ชื่อวิทยาศาสตร์ Bubo sumatranus
นกเค้าใหญ่พันธุ์ สุมาตรามีถิ่นกำเนิดในเกาะซุนดาส์ เทือกเขาตะนาวศรีไทย และ มาเลเซีย สำหรับประเทศไทยมีเฉพาะทางภาคใต้ นกเค้านี้ตัวผู้และตัวเมียเหมือนกันมีลักษณะคล้ายกับนกเค้าใหญ่พันธุ์เนปาล แต่ตัวเล็กกว่า และขนด้านบนของตัวมีลายขางเล็กๆสีเหลืองซีด ส่วนด้านล่างของตัวก็มีลายขวางเล็กๆ สีน้ำตาลบนพื้นขาว ชอบอยู่ตามป่าดงดิบซึ่งอยู่ไม่สูงนัก ชอบอยู่ตัวเดียวในขณะที่บินมักส่งเสียงร้องไปด้วย อาหารได้แก่ สัตว์เล็กๆ ไปถึงขนาดใหญ่ เช่น หนู กระรอก ลิง ค่าง กระจง
สถานภาพปัจจุบัน
สัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535
ผ่อง เล่งอี้.สัตว์ป่าสงวนและสัตว์ป่าคุ้มครอง.กรุงเทพฯ : อักษรสยามการพิมพ์ , 2521
โดย : นาย thawat hongsaton, ripw klongluang patumtani 13180, วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2545
'''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''
นกเค้าป่าสีน้ำตาล
Brown Wood-Owl
ชื่อทางวิทยาศาสตร์: Strix leptogrammica ลักษณะทั่วไป
นกเค้าป่าสีน้ำตาล จัดเป็นนกเค้าขนาดใหญ่ มีความยาวจากปลายปากจรดปลายหางราว 47-53 เซนติเมตร สีโดยรวมเป็นสีออกน้ำตาลๆ วงหน้ามีสีน้ำตาลแกมเหลือง สีอ่อนกว่าบริเวณหัวและหน้าผากซึ่งเป็นสีน้ำตาลเข้ม มีขนสีเกือบขาวลากจากโคนปากด้านบนขึ้นไปทางหัวตาดูคล้ายคิ้ว นกทั้งสองเพศคล้ายคลึงกัน
ถิ่นอาศัย, อาหาร
พบในอินเดีย จีน ไหหลำ ไต้หวัน ซูดาน พม่า มาเลเซีย เวียดนาม ตังเกี๋ย และลาว สำหรับประเทศไทยมีทางภาคเหนือ ภาคตะวันตกเฉียงเหนือ ภาคใต้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นกเค้าป่าสีน้ำตาลอยู่โดดเดี่ยวหรือเป็นคู่ตามกิ่งไม้ค่อนข้างสูงในป่าเบญจพรรณ ป่าดงดิบเขาตั้งแต่พื้นราบจนถึงความสูง 2590 เมตรจากระดับน้ำทะเล
อาหารได้แก่ นกขนาดเล็ก สัตว์เลื้อยคลานชนิดต่างๆ และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมขนาดเล็ก
พฤติกรรม, การสืบพันธุ์
นกเค้าป่าสีน้ำตาลจับคู่ผสมพันธุ์ช่วงเดือนกุมภาพันธุ์ วางไข่ในช่วงระหว่างเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม โดยจะอาศัยโพรงธรรมชาติหรือโพรงที่สัตว์อื่นขุดไว้ หรือซอกหินบริเวณที่ลาดชันเป็นรัง ไข่จะมีลักษณะค่อนข้างกลม เปลือกไข่สีขาว วางไข่ครอกละ1-2ฟอง เริ่มฟักตั้งแต่ออกไข่ฟองแรก ทั้งพ่อและแม่นกช่วยกันฟักไข่และเลี้ยงลูกอ่อน
สถานภาพปัจจุบัน
เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535
* นกเค้าขนาดใหญ่ จะไม่มีรังวางไข่ เพราะว่าการตัดไม้ทำลายป่าวัยเด็ก
เต็มวัย