ความรู้นี้อาจจะประยุคตใช้ในการยา เช่นการคํานวณสูตรยา และวิตามิน อาหารเสริมได้ดีโรคสำคัญที่พบมากในนกพิราบ 15 ชนิด1. Canker - Trichomoniasis Canker(โรคแคงเกอร์)
2. Coccidiosis (โรคติดเชื้อจากเชื้อค๊อกซี่ไดโอซีส)
3. E. coli or Collibacillosis (โรคติดเชื้อจากเชื้ออีโคไล)
4. One-Eye Colds (หวัดตาเดียว)
5. Paratyphoid - Salmonellosis(พาราไทฟอยด์)
6. Pigeon Pox (ฝีดาษ)
7. PMV - Paramyxovirus(ไวรัสพารามิกโซ)
8. Adeno Virus (อดิโนไวรัส)
9. Circo Virus (เซอร์โคไวรัส)
10. Pigeon Malaria (มาลาเรีย)
11. Respiratory infections - Mycoplasmosis & Ornithosis(โรคทางเดินหายใจ)
12. Sour Crop - Candida, Thrush (โรคกรดในกระเพาะอาหารอักเสบ)
13. Worm Diseases (พยาธิภายใน)
14. External Parasites (พยาธิภายนอก)
15. Diarrhea (โรคถ่ายเหลว)
ชนิดยาและขนาดการใช้ยารักษาโรคในนกพิราบเป้าหมายเพื่อให้ผู้ใช้สามารถตระหนักถึงการใช้ยาให้ถูกต้องเหมาะสม(การวิเคราะห์อาการของโรคว่านกเป็นโรคอะไร ผู้เลี้ยงต้องวินิจฉัยให้ถูกก่อนที่จะใช้ยาให้ตรงกับโรคนั้นๆ) ขนาดการใช้ยา ถ้าให้มากเกินขนาดอาจเกิดพิษต่อนก ถ้าให้น้อยไปก็จะไม่ได้ผลหรือเกิดการดื้อยา จากการรวบรวมข้อมูลหลายที่จากผู้เลี้ยงหลายราย โดยไม่ได้มีการควบคุมในห้องปฏิบัติการ ผลจากการทดลองจริงของนักเลี้ยงนกทั่วโลก
1.ขนาดการใช้ยา บางทีบอกเป็นช่วง เช่น ขนาดยา5-10กรัมต่อน้ำหนึ่งแกลลอน เพราะว่า ก) ถ้าเป็นการติดเชื้อที่ไม่รุนแรงมากหรืออาการไม่เป็นมากก็ใช้ยาปริมาณไม่เข้มข้น ตรงข้ามถ้ารุนแรงก็ต้องเพิ่มขนาดยา ข) ยาหลายตัวละลายในน้ำ อัตราการดื่มน้ำของนกแตกต่างกัน ตามภาวะอากาศ เช่น ร้อนดื่มมาก ได้รับตัวยามากตามไปด้วย โดยให้สมมุติฐานว่า อากาศร้อน นก30ตัวกินน้ำ1 แกลลอน(4ลิตร) หมดในหนึ่งวัน และอากาศเย็น นก60 ตัวกินน้ำ1 แกลลอน(4ลิตร) หมดในหนึ่งวัน ดังนั้นยาเจือจาง(5กรัม/แกลลอน)นก30ตัวได้รับยาครบหมด ขณะที่ยาเข้มข้น(10กรัม/แกลลอน) นก60ตัวได้รับยาครบหมด
2.ช่วงระยะเวลาการใช้ยา สำคัญมากต้องใช้ยากี่วัน หากหยุดยาเร็วเกินไปเชื้อโรคมีการดื้อยา โรครักษาไม่หาย อาจต้องเปลี่ยนยาตัวอื่น
หน่วยชั่งตวงวัด การเทียบอัตราส่วน
1 gram(กรัม)= 1000 milligrams มิลลิกรัม (mg)
1 ซีซี cubic centimeter (cc) = 1 มิลลิลิตรหรือมล. milliliter (mL)
5 cc = 1 ช้อนชา teaspoon; 100 cc = 20 ช้อนชาteaspoons
15 cc = 1 ช้อนโต๊ะ tablespoon
30 cc = 1 ounce(oz) ออนซ์
1000 cc = 1 litre ลิตร
8 oz = 1 cup ถ้วยตวง
2 cups = 1 pint ไพนท์
2 pints = 1 quart ควอต์
4 quarts = 1 gallon แกลลอน
I) กลุ่มยาปฏิชีวะนะออกฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียอย่างกว้าง :
Baytril ( Enrofloxacin): ยาที่ดีที่สุดในการรักษาโรคparatyphoid (salmonellosis). Baytril ออกฤทธิ์อย่างกว้างต่อเชื้อแบคทีเรียสามารถดูดซึมเข้าสู่เนื้อเยื่อต่างๆได้เป็นอย่างดี ขนาดการใช้ 5 mg ต่อนกต่อวันหรือ250mg ต่อน้ำgallon (4 liters). เป็นระยะเวลา10 วัน
SaraFlox (Sarafloxacin hydrochloride): คล้ายBaytril อยู่ในรูปผงละลายน้ำได้ในวงการปศุสัตว์ปีกใช้กัน ขนาด1 ช้อนชาต่อน้ำ1แกลลอนเป็นเวลา10วัน
Amoxicillin :ยาปฏิชีวะนะออกฤทธิ์กว้างต่อเชื้อพวก Salmonella, E. coli, Strep. & Staph. ขนาด 50 mg ต่อนกต่อวัน หรือ 3 กรัม (3000 มิลลิกรัม) ต่อน้ำแกลลอน (4 liters). เป็นเวลา 5-10 วัน.
Cephalexin : ยาปฏิชีวะนะทีคีอีกอัน ที่ออกฤทธิ์ต่อต้านเชื้อแบคทีเรียอย่างกว้าง. การใช้และขนาดเหมือนยาamoxicillinแต่ดีกว่า
Trimethoprim/sulfa : ยาปฏิชีวะนะชนิดผสมสองอย่าง .ออกฤทธิ์ต่อเชื้อแบคทีเรียที่ไวต่อยานี้ ปัจจุบันพบการดื้อยาประเภทนี้ ขนาด30 mg ต่อนกต่อวัน หรือ1500 mg ต่อน้ำ gallon (4 liters) เป็นเวลา 7-14 วัน.
Nitrofurans (NFZ, Furacin,หรือชื่ออื่นๆ .): ออกฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียรวมถึงเชื้อcocciด้วย ขนาด 1 ช้อนชา NFZ ต่อน้ำgallon (4 liters) เป็นเวลา 5-7 วัน.
Erythromycin (Gallimycin): เป็นยาที่ออกฤทธิ์แคบต่อเชื้อแบคทีเรีย. ใช้เฉพาะโรคติดเชื้อทางเดินหายใจเท่านั้น เช่น เชื้อMycoplasma species ซึมเข้าสู่กระแสเลือดน้อยเพราะถูกทำลายง่ายจากกรดในกระเพาะอาหารนกก่อน.ขนาดใช้50 mg ต่อนกต่อตัวหรือใช้1.5 ถึง 3กรัมต่อน้ำgallon (1500 - 3000 mg per 4 liters of water) เป็นเวลา 7-10 วัน.
Lincomycin : คล้ายกับ Erythromycin..
Tylosin : คล้ายกับ Erythromycin and Lincocin.แต่ดีกว่ามากๆ ขนาดและวิธีการใช้เหมือนกัน.สามารถทำลายเชื้อcoryza (โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ)เมื่อใช้ร่วมกับกลุ่มยา tetracyclines .
Tetracyclines Chlortetracycline (Aureomycin); Oxytetracycline (Terramycin): รักษาโรคทางเดินหายใจ- โดยเฉพาะเมื่อผสมกับยาTylosin.ขนาดการใช้ 60-75 mg ต่อนกต่อวัน หรือ600 -1500 mg ต่อน้ำ 4 ลิตรเป็นเวลา 7-14 วัน.
Doxycycline : ตระกูลเดียวกับ tetracycline - ที่แยกออกมาจากกลุ่มเตต้า เพราะนกกำจัดยาออกไปได้ช้ากว่าตัวอื่นผลคือยาสามารถรักษาได้ผลดีกว่าและใช้ในปริมาณที่ไม่มาก.ขนาดใช้10-50 mgต่อนกต่อวันหรือ 500 -1000 mgต่อน้ำ 4 ลิตร.เป็นยามหัศจรรย์ตัวหนึ่งอย่าลืมเก็บ อิฐ กริต เปลือกหอย ออกเมื่อใช้ยากลุ่มเตต้า
เพราะแคลเซี่ยมจะดูดยาไปหมด.
II) กลุ่มยาออกฤทธิ์ต้านเชื้อCoccidiostats:
Amprolium (ชื่อทางการค้า Corid, Amprol ): ยามหัศจรรย์สำหรับต้านเชื้อcoccidiosis. ขนาดใช้: 1 ช้อนชา (ชนิดผงเข้มข้น 20% ) ต่อน้ำgallon เป็นเวลา3-5 วัน. ห้ามให้วิตามินระหว่างให้ยา แต่หลังจากหยุดยาควรให้วิตามิน1-2วัน.
Toltazuril (ชื่อการค้าBaycox): เป็นยาที่ดีต้านเชื้อcoccidiostat. ในอเมริกายังไม่ให้ใช้(ยังไม่ได้พิสูจน์) ขนาดใช้ ยาน้ำ l mL per liter (4ซีซีต่อน้ำgallon หรือยาผง100 mg per gallon) เป็นเวลา2วัน.
Sulfonamides : ตระกูลซัลฟา แต่ให้ผลมากกว่าตัวอื่น. หรือยา Sulfadimethoxine ก็ให้ประสิทธิภาพดีกว่าอีก.ขนาดใช้:1250 mg ต่อน้ำ 4 ลิตรเป็นเวลา 5 วัน. .
III)กลุ่มยาออกฤทธิ์ต้านเชื้อTrichomonas (Canker organisms) และเชื้อ Hexamita :
ยากลุ่มนี้ ยกเว้น Spartrix สามารถให้กินเป็นเวลา 3-5 วันหรือมากกว่านั้นถ้าผสมน้ำดื่ม แม้ว่ายาชื่อ metronidazole (ชื่อทางการค้าคือ Flagyl ) สามารถป้อนเดี่ยวแบบเป็นเม็ด 1-2 วันแต่ประสิทธิภาพด้อยกว่ายา Spartrixบ้างส่วนRonidazole การใช้ปลอดภัยที่สุดต่อนก ผลข้างเคียงความเป็นพิษมีน้อย. ไม่เหมือนการใช้ยา Emtryl หรือ Flagyl หากให้มากเกิน(OVERDOSE)ผลคือทำให้ระบบประสาทส่วนกลางเสีย การทรงตัว หัวหมุน อาจตายได้.
Dimetridazole (ชื่อทางการค้าEmtryl): ขนาดใช้ 3/4 ช้อนชาต่อน้ำgallon (4 ลิตร) เวลา 5-7 วัน .
Ronidazole (ชื่อทางการค้าRidsol): ขนาดใช้400 mg ต่อน้ำ gallon หรือ 2 ช้อนชาต่อน้ำgallon (4 ลิตร). เป็นเวลา 5 วันก่อนฤดูการแข่งขันจะเริ่ม และควรใช้ทุกๆ2 สัปดาห์ในระหว่างแข่ง เป็นเวลา2วันตลอดช่วงแข่ง.
Metronidazole (ชื่อทางการค้าFlagyl): ขนาดใช้25-50 mg ต่อนกต่อวันหรือ1250-2500 mg ต่อน้ำgallon (4 ลิตร)เป็นเวลา 4-6 วัน.
Carnidazole (ชื่อทางการค้าSpartrix): หนึ่งเม็ดขนาดยา 10 mg ต่อนกหนึ่งตัว ยานี้ไม่ละลายในน้ำ.
IV)กลุ่มยาออกฤทธิ์ต้านเชื้อ Antimalarials:
ยากลุ่มนี้ เป็นการกดภูมิโรคมาลาเรียที่อยู่ในเม็ดเลือดไม่ให้แสดงอาการออกมา มิใช้เป็นการรักษาควรให้ก่อนแข่งขัน28 วันฤทธิ์ยาจะกดภูมิโรคไม่ให้ออกอาการ ควรให้ยา1-2 วันทุกสัปดาห์ตลอดการแข่งขัน.
Primaquine (Aralen) : Irregularly available. 1-2 tablets per gallon for 10-21 days before the race season, the 1-2 days weekly.
Quinacrine (Atabrine): 200 mg per 4 litres. 1ฝ - 3 tablets per 4 litres for 10-21 days, then 1-2 days each week.
Chloroquine : 500 mg per 4 litres.
[color=orange](ในเมืองไทยอาจไม่ได้ใช้)
V)กลุ่มยาออกฤทธิ์ต้านพยาธิWormers :
Ivermectin (ชื่อทางการค้า Ivomec, Eqvalen): มีฤทธิ์อย่างกว้างต่อพยาธิได้ผลอย่างมากต่อพยาธิตัวกลมเช่น Ascarids (ไส้เดือน), Capillaria (เส้นด้ายเส้นผม), และพยาธิในในผนังทางเดินอาหาร. มีการพัฒนาดื้อยาของพยาธิบางชนิด ขนาดใช้500 -1000 ไมโครกรัมต่อนกสามารถผสมน้ำดื่มได้แต่ไม่ค่อยได้ผลนัก ทางที่ดีที่สุดแน่นอนกว่าใช้หยอดลงคอหอยนก 2-3 หยดด้วยยาIvomec อาจต้องเพิ่มขนาดถ้าต้องการกำจัดพวกตัวกลมที่มีขนาดใหญ่. ปัจจุบันมีการพัฒนายาใหม่ที่ต้นกำเนิดยาคือavermectins จนมาได้ Moxidectin ซึ่งมีประสิทธิภาาพมากยิ่งขึ้น
Fenbendazole (ชื่อทางการค้าPanacur): ออกฤทธิ์อย่างกว้างต่อพยาธิตัวกลม เส้นด้าย พยาธิในทางเดินอาหารไม่ค่อยปลอดภัยต่อนก ทำให้ขนร่วงง่ายและขนขึ้นผิดปกติ กาหให้ยาเกินขนาดขนาดใช้ 5 mg ต่อนกต่อวัน เป็นเวลา 3 วัน.
Levamisole (ชื่อทางการค้าTramisol, Levasol, Ripercol): ออกฤทธิ์ต่อพยาธิตัวกลม แต่ไม่สามารถขับพยาธิเส้นด้าย พยาธิหัวเข็ม ขนาดใช้ 1-1.5 กรัมต่อน้ำแกลลอนเป็นเวลา 1-2 วัน. ยานี้อาจทำให้นกบางตัวอาเจียน.
Piperazine : Effective against roundworms only, and only 60-80% effective here.
Dose : 15 mg per bird (300 mg per gallon) for 2 days. It is best to avoid using piperazine.
Praziquantel (ชื่อทางการค้าDroncit): ดีเลิศสำหรับกำจัดพยาธิตัวแบนขนาดใช้6 มิลลิกรัมต่อนก ให้ครั้งเดียว (หรือให้1/4 เม็ด ของยาถ่ายพยาธิแมวชื่อDroncit tablet).
Pyrantel Pamoate : เหมาะกับถ่ายพยาธิตัวกลม.ขนาดใช้1-2 mg ต่อนกหรือ75 mg ต่อน้ำgallon เป็นเวลา 1-2 วัน. ทำซ้ำอีกใน 3 สัปดาห์.
เชื้อโรคต่างๆมีอยู่ทั่วไปในโรงเรือนนก การหมั่นทำความสะอาดกรง พื้นกรงแห้ง ช่องเกาะ ช่องยืนสะอาด รวมถึงมีการระบายอากาศที่ดี นกย่อมมีความเสี่ยงต่อการติดโรคน้อยลง ภาชนะใส่น้ำ อาหาร สะอาด แต่ในบางครั้ง หากมีการระบาดของโรค การรักษาก็ต้องทำกับนกทั้งฝูง อาจมีการแยกเดี่ยวออกมา ดังนั้นทางที่ดีควรป้องกันเชื้อโรคหรือทำการฆ่าเชื้อโรคบ่อยๆ เช่น โรงเรือนนก ภาชนะต่างๆ ฯ การใช้ยาฆ่าเชื้อโรคก็เพื่อป้องกันก่อนที่เชื้อพวกนี้จะเข้าสู่ร่างกายนก
การฆ่าเชื้อจุลชีพมีหลายวิธีดังนี้ 1.Sterilization (การทำให้ปราศจากเชื้อ) คือ การทำลายจุลชีพทุกชนิดรวมทั้งสปอร์ให้หมดสิ้นไป เช่น การต้มนึ่ง การอบแห้ง (hot air oven)
2.Disinfection (การทำลายการติดเชื้อ) คือ การลด หรือการกำจัดจุลชีพ ทั้งทำให้เกิดโรค และ ที่ไม่ทำให้เกิดโรค ด้วยวิธีดังนี้
2.1โดยใช้ความร้อนและแสง ความร้อนแบ่งได้เป็นความร้อนแห้ง(dry heat) และความร้อนเปียก (moist heat) ใช้ได้ผลดีในการแทรกเข้าภายในสารอินทรีย์ที่สารเคมีเข้าไปไม่ถึง โดยทำให้โปรตีนของเชื้อโรคแข็งตัว ส่วน dry heat นั้นต้องใช้ความร้อนสูงกว่าและนานกว่า ส่วนแสงที่สามารถใช้ฆ่าเชื้อโรคได้คือ แสง ultraviolet ซึ่งมีความยาวคลื่น 2540-2800 angstorm สามารถใช้ฆ่าแบคทีเรียกรัมลบ และแบคทีเรียที่ไม่มีสปอร์แต่ใช้ได้ผลไม่ดีต่อ Staphylococcus, Streptococcus และ virus แสง UV ไม่มีอำนาจทะลุทะลวงผ่านกระจกได้2.2Antiseptics (ยาฆ่าเชื้อ/ ยาระงับเชื้อ) คือ สารเคมีที่ทำลายหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลชีพที่ทำให้เกิดโรค (มีความจำเพาะต่อชนิดของเชื้อ)ใช้กับผิวหนังหรือเยื่อเมือกของสิ่งมีชีวิตและใช้กับ “ภายนอก” ร่างกายโดยไม่ทำอันตรายต่อเนื้อเยื่อบริเวณนั้น
2.3 Disinfectant (ยาทำให้ปราศจากเชื้อ / ยาล้างเชื้อ)คือสารเคมีที่ใช้ฆ่าหรือทำลายจุลชีพและใช้กับสิ่งไม่มีชีวิต (การออกฤทธิ์ไม่มีความจำเพาะต่อเชื้อ) ใช้กับพื้นห้อง เครื่องมือ เครื่องใช้ พื้นห้อง เป็นต้น
การใช้ยาantiseptic หรือ disinfectant จะได้ผลหรือไม่ ขึ้นอยู่กับ1. ความเข้มข้นของยา
2. ระยะเวลายาวนานที่ใช้ยา
3. อุณหภูมิของยาซึ่งจะทำให้ฤทธิ์ยาเพิ่มขึ้น
4. ความไวของแบคทีเรียต่อยา
5. จำนวนแบคทีเรียที่มี
6. คุณสมบัติของ media บริเวณที่มีเชื้อโรค เช่น เป็นโปรตีน กรด/ ด่าง อินทรียสารคุณสมบัติของ Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ1. มีฤทธิ์ทำลายจุลชีพได้ทุกชนิด
2. ออกฤทธิ์ได้รวดเร็วและมีฤทธิ์อยู่นาน
3. ละลายน้ำได้ง่ายและมีความคงตัวสูง
4. ฤทธิ์ไม่เสียไปเมื่อถูกกับสบู่ หรือ สารอินทรีย์ เช่น เลือด หนอง ฯลฯ
5. ไม่เป็นอันตรายต่อเนื้อเยื่อของร่างกาย และไม่ขัดขวางกลไกในการหายของแผล
6. ถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือดได้น้อย และไม่ก่อให้เกิดการแพ้
7. สามารถแทรกซึมเข้าไปในสิ่งของที่ต้องการ ทำให้ปราศจากเชื้อได้ดี และไม่มีฤทธิ์กัดกร่อนต่อวัตถุที่ใช้
8. ไม่มีสี และกลิ่นอันไม่พึงประสงค์
9. ราคาถูก
ชนิดของยาฆ่าเชื้อและยาล้างเชื้อ แบ่งตามโครงสร้างทางเคมี ได้แก่1. Alcohols ได้แก่ Ethanol และ Isopropanol
2. Aldehydesที่ใช้ในปัจจุบัน คือ Formaldehyde(Formalin 37%) และ Glutaraldehyde
3. Halogens Halogens ที่ใช้มาก คือ Iodine, chlorine และ อนุพันธ์ของสารทั้งสอง
4. Heavy metalsใช้ในรูปเกลือ เช่น เกลือปรอท และเกลือเงิน
5. Oxidizing agentsใช้เป็นยาฆ่าเชื้อ เหมาะกับจุลชีพ anaerobicหรือfacultative anaerobic microorganismเป็นกลุ่มที่นิยมใช้อยู่ทั่วไป เช่น ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์(HYDROGEN PEROXIDE),ด่างทับทิม(POTASSIUM PERMANGANATE),ฟีนอล(Phenols) ,ครีซอล(CRESOLS), HEXACHLOROPHENE เช่น CHLORHEXIDINE, CHLOROXYLENOL (Dettol), DYES ชนิดที่รู้จักกันดี คือ Acriflavin (ยาเหลือง) และ Gentian violet (ยาม่วง)
6. Surface active agents สารที่อยู่เป็นหนึ่งในกลุ่มนี้และรู้จักกันดีคือ detergent หรือ ผงซักฟอก
7. Acids กรดอนินทรีย์ และ กรดอินทรีย์
8. Nitrofurazone
9. Ethylene oxide
10. Miscellaneous
จากการตรวจเอกสารต่างๆ ทั้งนักเลี้ยงนกในและต่างประเทศ มีการเติมสารในกลุ่ม Halogens เช่น Iodine , chlorine (คลอรีนผง)และPovidone-Iodine( เบตาดีน)ละลายในน้ำดื่มนก ในปริมาณเจือจาง เพื่อกำจัดหรือลดปริมาณเชื้อโรคไม่ให้เจริญเติบโตโดยเฉพาะช่วงฤดูร้อน
หมายเหตุ : สารเคมีเหล่านี้ไม่ใช่ยาปฎิชีวะนะ กรณีนกป่วยแล้วต้องให้ยาปฏิชีวนะในการรักษาเท่านั้น และส่วนตัวนิยมใช้ครีซอล(CRESOLS) หรือ ไลโซล(lysol) ทำความสะอาดกรงนก เพราะสามารถทำลายไวรัสได้ ซึ่งตามโรงพยาบาลใช้อยู่ --------------------------------------
ความรู้เกี่ยวกับยาในนกพิราบแข่งดร.ธีระชน มโนมัยพิบูลย์
ตอนที่ 1ผมได้รับโทรศัพท์จากเฮียบุญเลิศว่า อยากให้ช่วยเขียนบทความเกี่ยวกับยาที่ใช้ในนกพิราบแข่งเพราะปัจจุบันมีการใช้ยาหลากหลายชนิด ทั้งยารักษาโรค ยาบำรุงสุขภาพประเภทวิตามินต่างๆ ซึ่งคนเลี้ยงนกหลายคนที่อ่านภาษาอังกฤษไม่ออกก็จะไม่ค่อยรู้ว่าจะใช้ยาตัวไหน ขนาด หรือปริมาณเท่าไหร่ หรือแม้แต่คนที่อ่านภาษาอังกฤษออกบางท่านก็อาจไม่รู้ว่าจะไปหาข้อมูลที่ไหน ที่เป็นการใช้ยากับนกพิราบแข่งโดยตรง ประกอบกับสายอีสานเป็นสายที่สภาพอากาศโหดเจอทั้งตามลม ทวนลม อากาศร้อน และบางคราวอาจเจอพายุฤดูร้อนอีก ทำให้การดูแลสุขภาพนกให้พร้อมเป็นสิ่งสำคัญมากเป็นพิเศษ เมื่อฟังความเห็นของคุณบุญเลิศแล้วก็เห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าว จึงขอเริ่มบทความชุดใหม่ในชุดความรู้เกี่ยวกับยาในนกพิราบแข่ง โดยเนื้อหาทั้งหมดจะนำมาจากแคตาลอคขายยาของฝรั่ง พร้อมถ่ายสำเนาต้นฉบับภาษาอังกฤษมให้ด้วยพร้อมราคาขายปลีกและขายส่ง เพื่อจะได้รู้ต้นทุนการนำเข้า เพราะยาบางตัวซื้อยาของคนใช้อาจจะถูกกว่าการสั่งยานกเข้ามาใช้เสียอีก สำหรับตอนแรกก็จะเริ่มจาก
โรคแคงเกอร์ (CANKER) ตัวยาที่ใช้งานจะมี 5 กลุ่มด้วยกันคือ
1. คาร์ไนดาโซล (CARNIDAZOLE) ที่ขายกันในบ้านเราและรู้จักดีก็คือ สปาร์ตริก (SPARTGRIX) นั่นเอง
2. ไดเมทริดาโซล (DIMETRIDAZOLE) จะเป็นตัวยาขนาดความเข้มข้น 40 เปอร์เซนต์ ผสม 25 กรัมต่อน้ำ 40 ลิตร กินติดต่อกัน 7 วัน
3. เมโทรไนดาโซล (METRONIDAZOLE) สำหรับยาตัวนี้ ผมเคยเขียนลงเผยแพร่ก่อนหน้าคือ ยาแก้ฤดูขาว ฤดูเขียว ในสตรี ซึ่งอาจารย์จุฬาฯ แนะนำให้ลองใช้ดูเพราะถูกสตางค์มาก ใช้ปริมาณ 100 มิลลิกรัม ในฤดูแข่งใช้ 1 ครั้งต่อเดือน ในการรักษาใช้ติดต่อกัน 3 วัน แต่ถ้าผสมน้ำใช้ 2 กรัมต่อน้ำ 1 แกลลอน หรือขนาดเม็ด 250 มิลลิกรัม จำนวน 8 เม็ดต่อน้ำประมาณ 4 ลิตร กินติดต่อกัน 5 วัน
4. โรไนดาโซล (RONIDAZOLE) ชนิดผง 5 กรัม หรือ 1 ช้อนชา ต่อน้ำ 2 ลิตร กิน 3-5 วัน หรือตามใบกำกับยา ส่วนชนิดเม็ด 5 มิลลิกรัมให้ 1 เม็ดต่อนก 1 ตัว
5. เซคไนดาโซล (SECNIDAZOLE) ชนิดน้ำใช้ 60 มิลลิลิตรต่อน้ำ 1 ลิตร ให้กิน 1-2 วัน
สำหรับฉบับหน้า จะเป็นยารักษาท้องเสียจากโปรโตซัวชนิด คอกซิไดโอซิส
(COCCIDIOSIS) ซึ่งนกสายอีสานที่เจออากาศร้อนแล้วแวะกินน้ำข้างทางหรือบางตัวอาจติดต่อกันเองภายในกรงที่เลี้ยงแน่นเกินไป แล้วเกิดการปนเปื้อนจากขี้นกเป็นโรค กระเด็นถูกอาหารหรืออาหารเสริมที่ตั้งทิ้งไว้ในกรง นอกจากนี้ในตอนต่อๆไป จะมียารักษาโรคท้องร่วงจากเชื้อ อี. โคไล (E. COLI) และพาราไทพรอยด์อีกด้วย ที่สำคัญผมจะเอาตัวข้อมูลต้นฉบับมาลงประกอบให้ด้วย คิดว่าเพื่อนๆ คงจะได้รับความรู้จากบทความชุดนี้ นำไปปรับปรุงการดูแลรักษาสุขภาพนกของท่านต่อไป *****************************************
ยาฆ่าเชื้อ ป้องกันและรักษาโรค แคงเกอร์ หรือ โรคคอดอก TRICO PLUS ไตรโคพลัส
ป้องกันและรักษาโรค แคงเกอร์ หรือ โรคคอดอก
( เชื้อ Trichomonosis หรือ Hexamitosis ในสัตว์ปีก )
วิธีใช้
นกพิราบ : ผสม 1 ซอง หรือ 1 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 1 ลิตร
( ประมาณนก 40 ตัว )
นกสวยงาม : ผสม 1 ซอง หรือ 1 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 1-2 ลิตร ( ตามขนาดนก )
ไก่ชน : ผสม 1ซอง หรือ 1ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 1 ลิตร
กรณีป้องกันโรค : ให้กินติดต่อกัน 2 วัน ทุก 2 อาทิตย์
กรณีติดเชื้อ Trichomonsic ให้กินติดต่อกัน 5 วัน
กรณีติดเชื้อ Hexamitosis ให้กินติดต่อกัน 10 วัน
**************************************
ORNICURE ออนนิเคียวร์ป้องกัน และรักษา การติดเชื้อแบคทีเรีย Ornithosis สาเหตุของโรคหวัด เช่น หวัดลงคอ หายใจไม่ออก น้ำมูกเหนียว หื่นหอบ อ้าปากหายใจ อาการตาแฉาะในสัตว์ปีก
วิธีใช้
ผสม 1 ซอง หรือ 1 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 1-2 ลิตร
สำหรับสัตว์ปีก ที่กินน้ำน้อย ให้ผสม 1 ซอง หรือ 1 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำครึ่งลิตร
กรณีป้องกันโรค ให้กิน 2 วัน ติดต่อกันทุก 7 อาทิตย์
กรณีติดเชื้อแล้ว ให้กินติดต่อกัน 5-10 วัน
ไม่ แนะนำให้ ORNICURE สำหรับสัตว์ปีกช่วงผสมพันธุ์
เมื่อมีอาการติดเชื้อ ไม่แนะนำ ให้นำสัตว์ออกใช้พลังงาน หรือเข้าแข่งขัน
*******************************
AMOXI CURE อม็อกซิ เคียวร์
รักษาการติดเชื้อแบคทีเรีย Streptococcosis
และ Salmonellosis และ Colibacillosis และเชื้อแบคทีเรียทั่วไปในสัตว์ปีก
วิธีใช้
ผสม 1 ช้อนโต๊ะ หรือ 5 กรัม ต่อน้ำ 1 ลิตร ใช้กับนกได้ประมาณ 20 ตัว / นกพิราบ 10 ตัว ให้กินติดต่อกัน 5 วัน
เปลี่ยนใหม่ทุก 12 ชั่วโมง หรือครึ่งวัน
กรณีติดเชื้อรุนแรง ให้กินติดต่อกัน 10 วัน
ใช้คู่กับ THERAPRIM เพื่อป้องกัน และรักษาโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Salmonellosis ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และแยกสัตว์ปีกที่ติดเชื้อ ออกจากกรง / ซุ่ม เพื่อรักษาแล้วให้ THERAPRIM และ AMOXI CURE แก่สัตว์ปีกที่ยังไม่ติดเชื้อ เพื่อป้องกันการติดต่อ
ห้าม : ใช้วัสดุที่เป็นโลหะ ในการผสมและบรรจุ
ห้าม : ผู้ที่แพ้ยาเพนนิซิลิน หรือ อม็อกซิลินสัมผัสหรือสูดดม
ใช้คู่กับ THERAPRIM