ปรสิต เป็นสาเหตุระดับต้นๆต้องระวัง

I parassiti dei rapaci di Neil Forbes FRCVS
ปรสิตของนกของเหยื่อโดย Neil Forbes FRCVS
ปรสิตทั้งหมดฐานความอยู่รอดของพวกเขาในสัตว์ที่มีของที่พวกเขาอาศัย สำหรับปรสิตไม่ได้เป็นปกติแล้วนำไปสู่​​การตายของสัตว์ที่เขาอาศัยอยู่ที่ ภายใต้สถานการณ์ปกติปรสิตและโฮสต์ของมันจะอาศัยอยู่ในความสามัคคีสมดุล' ยกเว้น'โดยปกติจะเป็นเมื่อความต้านทานของบุคคลที่มีต่อปรสิต (ซึ่งมักจะยังคงรบกวนในการควบคุมบาง) จะลดลงทำให้ปรสิตจะใช้เวลามากกว่า สถานการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อมีอยู่ในนกป่าขาด'ของอาหารหลังจากได้รับบาดเจ็บหรือในระหว่างระยะเวลาของเงื่อนไขที่ไม่เอื้ออำนวย สำหรับนกของเหยื่อจากเหยี่ยว, การทำให้อ่อนกำลังอุบัติเหตุหรือสาเหตุอื่น ๆ สามารถเรียกสถานการณ์เดียวกัน มีข้อยกเว้นกฎนี้ซึ่งแม้จะเป็นจำนวนน้อยของปรสิตอาจทำให้เกิดโรคนี้เกิดขึ้นที่ความต้องการที่อยู่ของพยาธิในโฮสต์ที่จะอยู่เพียงช่วงเวลาสั้น ๆ ครบวงจรของชีวิตที่ได้สิ่งที่เขา ไม่ดูแลถ้าโฮสต์ที่ป่วยหรือตาย โรคปรสิตจะเพิ่มขึ้นในอุบัติการณ์ในนกสายพันธุ์ล่าสุดในการเป็นเชลย'นี้เป็นเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของ'การสัมผัสกับปรสิตเป็นผลมาจากการปนเปื้อนที่เพิ่มขึ้นของสวนนกโดยผู้ใหญ่

ปรสิตภายนอก

รบกวนขนาดใหญ่ของปรสิตเกี่ยวกับนกโดยปกติจะเป็นสัญญาณว่านก'คือไม่ดีสำหรับเหตุผลอื่น ๆ ดังนั้นแทนที่จะรักษาพยาธิตัวเองที่หนึ่งเสมอควรค้นหาสาเหตุต่อไปของการเกิดโรค

Hippoboscids (แมลงวันแบน) อาจจะเป็นหนึ่งของปรสิตที่พบบ่อยที่สุดของนกของเหยื่อ พวกเขากินเลือดแม้ว่าพวกเขาจะไม่ค่อยทำให้เกิดการสูญเสียที่สำคัญ อย่างไรก็ตามขณะนี้มีหลักฐานที่จะสมมติว่าพวกเขาสามารถดำเนินการปรสิตและผลกระทบของการเลือดนกจากที่หนึ่งไปยังอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเช่นเลือด Leucocytozoon ปรสิต Plasmodium ที่ Sarcocystis ที่เป็นโรคติดเชื้อ blood - borne อื่น ๆ ในสหราชอาณาจักรเหล่านี้พยาธิในเลือดที่หายาก แต่ในสภาพอากาศที่อบอุ่นเป็นใช้พวกเขาในโรคเช่นโรคมาลาเรียที่มีความสำคัญสูง หลังจากที่ในช่วงฤดู​​ร้อนที่ร้อนแรงที่สุดของ 1994-1995, อุบัติการณ์'ได้เพิ่มขึ้นส่งผลกระทบต่อนกจาก 3-5 เดือนเป็นนกฮูกเหยี่ยวและแฮร์ริสเหยี่ยว Gyr ในกรณีหนึ่งที่รักนกได้จับนกกางเขนเพียงเก้าวัน prima.Questa ถูกทรมานจากการรบกวน hippoboscids หนักและถูก'เพื่อ', เห็นได้ชัดว่าพวกเขาได้ส่งปรสิตในเลือดที่ก่อให้เกิด'การทำลายล้างและการติดเชื้อ ฮอว์กแฮร์ริสในการตายของเวลาที่สั้นมาก


เหาคือปรสิตที่พบบ่อยของ raptors อื่น ๆ ฟีดเหาบนขนเศษและผิวหนัง แต่ไม่ได้อยู่รอดนอกพื้นที่เป็นเวลานานและทำให้การรักษาด้วยการเตรียมการของยาฆ่าแมลงเป็นเรื่องง่ายนัก
ในทางตรงกันข้าม'สัตว์ปีกไรแดง', มีชีวิตอยู่นอกพื้นที่สำหรับงวดมาก ไรนี้อาศัยอยู่ในรอยแตกของไม้และมักจะออกมาเฉพาะในเวลากลางคืนเพื่อเป็นอาหาร ในกรณีนี้เมื่อตรวจสอบนกในระหว่างวันที่'สามารถดูฟรีของปรสิตในขณะที่นก e'affetto เดียวกันโดยสถานะของตนคืน
ทั้งหมดศัตรูพืชที่กินเลือดได้อย่างง่ายดายและบริหารจัดการได้อย่างง่ายดายโดยผ่านทางผลิตภัณฑ์เช่นวัว Ivomec (AgVet เอ็มเอส) ซึ่งยังคงต้องเจือจาง ปริมาณที่เหมาะสมและ diluents อาจถูกกำหนดโดยสัตวแพทย์ของคุณ
ปรสิตในเลือดอื่น ๆ ที่มีการจัดการที่ดีโดยใช้'ยาฆ่าแมลง แต่การดูแลจะต้องใช้เฉพาะในกรณีที่การเตรียมการจะมีความปลอดภัย สเปรย์บางชนิดมีส่วนผสมหรือเชื้อเพลิงซึ่งสามารถเป็นพิษหรือระคายเคืองที่ปอด เตรียมการ Frontline ใหม่สำหรับหมัดของสุนัขหรือแมวและ'พิสูจน์ความปลอดภัยและประสิทธิภาพในกว่า 100 นกที่มัน'ถูกใช้ ดูเหมือนว่าจะไม่เพียง แต่มีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ยังมั่นใจมากขึ้นเกี่ยวกับปรสิตทดสอบก่อนหน้านี้ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ

ปรสิตภายใน
พ่อพันธุ์แม่พันธุ์หลาย falconers และ rehabilitators svermano นกของพวกเขาเป็นประจำทุกปีหรือเมื่อพวกเขาได้รับการจัดการและเชื่อว่าทุกอย่างที่ถูกต้อง แนวคิดนี้เป็นที่ผิดอย่างจริงจังและบางครั้งสามารถนำไปสู่​​ผลกระทบอย่างรุนแรง
Fluke (ปลาพเลซ) เป็นปรสิตที่พบโดยทั่วไปของนกของเหยื่อตามปกติที่ไม่ใช่เชื้อก่อโรค พวกเขาอาศัยอยู่ในลำไส้เล็กหรือท่อน้ำดี การวินิจฉัยจะทำเฉพาะในการตรวจสอบอุจจาระและถึงแม้ว่ามักจะก่อให้เกิดโรคไม่เมื่อปัจจุบันควรจะทำโดยการรักษาที่เหมาะสม ยาที่ใช้กันมากที่สุดคือ rafoxanide ที่ปริมาณของ 10mg/kg หรือ praziquantel (Droncit) ประจำวันสำหรับ 14 วันหรือ 5-10mg/kg chlorsulon (Curatrem) 20mg/kg 3 เดือนในช่วงเวลา 2 สัปดาห์ 'การวินิจฉัยที่แน่นอนการรักษาและคำแนะนำเกี่ยวกับยาเสพติดจะได้รับโดยสัตวแพทย์ของคุณ

tapeworms : พยาธิตัวตืดเป็นพยาธิที่พบโดยทั่วไปค่อนข้าง แต่จะมีการทำให้เกิดโรคที่ไม่ค่อย โรคเป็นปัจจุบันเท่านั้นในสถานการณ์ที่ c'เป็น'รบกวนหนักมากซึ่งสามารถนำไปสู่​​ลำไส้อุดตัน'เล็ก การรักษาโดยใช้ praziquantel (Droncit ไบเออร์) ซึ่งสามารถใช้ได้เป็นเม็ดหรือฉีดและนกควรจะเป็นในศตวรรษที่ 5-10 มก. / กก. หรือ chlorsulon ตามที่อธิบายไว้ข้างต้น ..


พยาธิตัวกลม : เหล่านี้เป็นกลุ่มที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดของปรสิตภายใน กลุ่มรวมถึงการ Serratospiculum Syngamus และตามลำดับที่มีผลต่อหลอดลมและปอด ทั้งสองอาจทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจในนกที่ติดเชื้อแม้ว่าในทั้งสองกรณีเป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งการวินิจฉัยที่จะทำก่อนการรักษาที่ได้รับ ในกรณีของการ Syngamus แม้หลังจากที่ถูกฆ่าตายที่จะยังคงอยู่ในทางเดินหายใจได้ถึงหกสัปดาห์เช่นที่พวกเขาจะสลายตัวช้าในขณะเดียวกันก่อให้เกิดปัญหาทางเดินหายใจและโรคปอดอักเสบเป็นครั้งคราว Serratospiculum piu'diffuso อยู่ในประเทศนี้ (อังกฤษ) ในนกที่นำเข้ามา (ซึ่งมาจากประเทศเขตร้อน) พยาธิตัวเองมักจะทำให้เกิดอาการในปอดและสามารถมีชีวิตอยู่อย่างสะดวกสบายเป็นเวลาหลายปี แต่ถ้ามันถูกฆ่าตายอย่างรวดเร็วมักจะก่อให้เกิดปัญหาร้ายแรง putrefarà ปอดและมักจะตาย ถ้าพยาธิมีการวินิจฉัย, การรักษาที่ต้องการคือการรักษานก'รายวันสำหรับ 14 วันในสภาพแวดล้อมที่ร้อนและการผ่าตัดของปรสิตจากปอด
สารที่ใช้ในการรักษาโรคพยาธิตัวกลมรวม pipeazine, levamisole ที่ benzimidazole (เช่น Panacur หรือ Mebenvet หรือ pyrantel) และ wormer (Ivomec) บางส่วนของเหล่านี้ตอนนี้ล้าสมัยไม่เหมาะสมและไม่มีประสิทธิภาพขณะที่คนอื่นมีกำไรความปลอดภัยที่ จำกัด มากและอาจเป็นอันตรายอื่น ๆ มีความเป็นพิษที่อาจเกิดขึ้นในบางช่วงเวลาของปีอื่น ๆ มีความปลอดภัย



โปรโตซัว : กลุ่มของปรสิตซึ่งรวมถึง'Trichomoniasis ของสัตว์ปีกที่ แหล่งที่พบมากที่สุดของการติดเชื้อ'มาจากนก falconers หลายคนเชื่อว่าการทำความสะอาดอย่างละเอียดและหลีกเลี่ยงเครื่องในนกพิราบของโรคที่สามารถหลีกเลี่ยงได้นี้ไม่เป็นที่แน่ใจว่าแม้กล้ามเนื้อหน้าอกของตัวเองสามารถดำเนินการที่ตัวแทนติดเชื้อ ทั้งหมดของนกพิราบที่ควรจะแช่แข็งเป็นแนวทางการรักษานี้ฆ่าสิ่งมีชีวิตเกือบทั้งหมด โรคนี้เป็นที่ประจักษ์โดยรอยสีขาวในทางเดินปาก, คอหรือทางเดินอาหาร แต่ความจริงก็จะต้องแตกต่างจาก'การติดเชื้อ Capillaria, Candida หรือบกพร่องของวิตามินหรือ'เริมในนกฮูก การวินิจฉัยที่สามารถทำได้อย่างง่ายดายโดยสัตว์แพทย์ของคุณ การรักษาจะมี Carnidazole 25mg/kg (Spartrix) เมื่อ การรักษาเดียวในทางตรงกันข้ามกับการรักษาประจำวันที่แนะนำก่อนหน้านี้ทำให้การรักษามากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนกป่าในกรงหรือสำหรับคนหนุ่ม'ยังคงอยู่ในรังที่เลี้ยงโดยผู้ปกครองที่
ในกลุ่มเดียวกันยังมี coccidia ปรสิตซึ่งอาจจะเป็นปัจจุบันและทำให้เกิดโรคหรือไม่ขึ้นอยู่กับชนิดของ coccidia ที่เกี่ยวข้องกับการที่แน่นอน นอกจากนี้ถ้าเป็นโรคที่เกิดขึ้นสัญญาณและการรักษาพยาบาลที่จำเป็นจะแตกต่างกัน coccidia จะเพิ่มขึ้นและนี้เนื่องจากการติดเชื้อ'สร้างขึ้นจาก'ในบุคคลในการเป็นเชลย' โรคนี้ส่วนใหญ่มีผลกระทบต่อนกหนุ่มสาวก่อนที่จะพัฒนาระบบภูมิคุ้มกันของพวกเขา เงื่อนไขจะถือว่าทุกวันด้วย Toltrazuril (Baycox) ที่ 10mg/kg สามวันหรือ Clazuril (Appertex) เพื่อ 5-10mg/kg วันละครั้งเป็นเวลาสามวัน Giardia และอื่น ๆ โปรโตซัวเป็นสอง Hexamita ซึ่งสามารถทำให้เกิดโรคทางคลินิก
โรคบิดใน Merlins : วิธีการและ'เป็นที่รู้จักให้กับผู้อ่านมากที่สุดใน Merlins บิดเป็นปัญหาสำหรับจำนวนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของปีที่ผ่านมา ในกระดาษที่นำเสนอที่ประชุมเกี่ยวกับการ raptors ในปี 1991 ซึ่งเป็นหนึ่งผู้เขียนได้อธิบายนี้เป็นสาเหตุที่ใหญ่ที่สุดของการเสียชีวิตในการเป็นเชลยของ Merlins' จากนั้นจะเพิ่มขึ้นที่เกิดขึ้นและในช่วงสองปีสุดท้ายที่เกี่ยวข้องกับจำนวนมากของผู้แสวงบุญและ Astori แม้ว่าระบบการปกครองที่แนะนำข้างต้นที่มีประสิทธิภาพเพื่อป้องกันการเสียชีวิตในนกที่ติดเชื้อจะไม่สมบูรณ์มีประสิทธิภาพในการกำจัดออกจากร่างกายของนก ดังนั้นบางเดือนหลังจากที่นกจะเริ่ม'ที่จะกำจัดของร่างกายแม้'.. นี้จะนำไปสู่​​การปนเปื้อนมากไหลของสวนนกที่จะนำไปสู่​​','การทำลายอนาคตของนกอื่น ๆ โดยทั่วไปเท่านั้นนกหนุ่มสาวหรือป่วยจริงๆยอมให้โรค โรคนี้เป็นเรื่องของการวิจัยออกไป'โรงพยาบาล Clockhouse สัตวแพทย์ เรามีความยินดีที่จะมองหาตัวอย่างฟรีมาจาก Merlins ทั้งหมดในการเป็นเชลย', ให้ที่เจ้าของสามารถที่จะส่งตัวอย่างเป็นประจำทุกเดือนตามปกติ มันเป็นเพียงผ่านการวิจัยอย่างต่อเนื่องที่เราหวังว่าในที่สุดได้รับผลของการเกิดโรคที่มีผลกระทบอย่างรุนแรงสำหรับนก'พันธุ์เชลย'อนาคตของเหยื่อไม่เพียง แต่ในสหราชอาณาจักร แต่ยังอยู่ในส่วนอื่น ๆ ของโลกนี้
ข้างต้นทั้งหมดเป็นความจริงที่สำคัญและ'ที่เจ้าของทั้งหมดที่ตระหนักดีว่าไม่มีการรักษาจะมีผลเฉพาะกับคนบางกลุ่มของปรสิต มิฉะนั้นการรักษาจะนำไปสู่​​ความผิดพลาดของการรักษาความปลอดภัยและ potra'risultare ไร้ประโยชน์และอันตราย ก่อนที่จะทำการรักษาใด ๆ ที่คุณจะมี'ที่จะตรวจสอบโดยสัตว์แพทย์ของคุณตัวอย่างอุจจาระ (อย่างรวดเร็วและประหยัด) หลังจากที่'เราจะสามารถ'เพ​​ื่อแนะนำและให้'ตัวแทนที่เหมาะสมที่สุด
ทุกโรงพยาบาล Clockhouse สัตวแพทย์เราจะดำเนินการตรวจสอบที่รวดเร็วมีประสิทธิภาพและราคาไม่แพงของตัวอย่างที่ เจ้าของได้รับเชิญให้ส่งตัวอย่างการเรียกหลังจาก 12 ชั่วโมง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์

--------------------------------------

ท่านแปลเองจากนี่แล้วกันถ้า ข้างบนอ่านแล้ว งง ๆ
I parassiti dei rapaci di Neil Forbes FRCVS


Tutti i parassiti basano la loro sopravvivenza su quella dell' animale in cui vivono . Per un parassita non è quindi normale condurre alla morte l’animale in cui vive. In circostanze normali il parassita ed il suo ospite vivranno in un' armonia equilibrata. L' eccezione si presenta quando la resistenza normalmente avuta degli ospiti contro il parassita, (che solitamente mantiene un infestazione sotto un certo controllo) è ridotta ,permettendo che il parassita prenda il sopravvento. Tali situazioni si presentano quando negli uccelli selvatici c’e’ mancanza di alimenti, dopo incidenti, ferite o durante periodi estesi di condizioni sfavorevoli . Per i rapaci da falconeria, la debilitazione, incidenti, o altre cause possono innescare la stessa situazione. Ci sono eccezioni a questa regola, dove persino un piccolo numero di parassiti può causare la malattia; ciò si presenta dove le necessità del parassita sono di vivere nel suo ospite soltanto per un breve periodo , per completare un ciclo di vita, fatto cio’ lui non si preoccupa se l’ospite è malato o muore. Le malattie dovute a parassiti, recentemente stanno aumentando di incidenza in uccelli allevati in cattivita’ , questo è dovuto a un aumento dell’ esposizione ai parassiti, come conseguenza della maggiore contaminazione della voliera da parte degli adulti .

Parassiti Esterni

Una grande infestazione di parassiti su un uccello è tipicamente segno che l’ uccello è malato per altri motivi. Così piuttosto che trattare il parassita da solo, uno dovrebbe cercare sempre una causa ulteriore della malattia.
Hippoboscids ( mosche piatte) è forse uno dei parassiti più comuni dei rapaci. Questi si nutrono di sangue, anche se ne causano raramente una perdita significativa . Tuttavia ci sono ora delle prove per supporre che possono e in effetti trasportano i parassiti del sangue da un uccello ad un altro. In particolare parassiti del sangue come i Leucocytozoon, i Plasmodium , i Sarcocystis, così come altre infezioni trasmesse dal sangue. Nel Regno Unito tali parassiti del sangue sono rari, comunque nei climi più caldi come negli U.S.A.le malattie come la malaria sono altamente significative. Dopo le estati più calde del 1994/95, l' incidenza è aumentata, interessando uccelli di 3-5 mesi, come gufi , hawks di Harris e falchi di Gyr . In un caso, l' uccello affetto aveva catturato una gazza soltanto nove giorni prima.Questa era affetta da un infestazione pesante di hippoboscids, e fu' cosi', evidente, che questi avevano trasmesso dei parassiti del sangue, causando un' infezione devastante e mortale del falco di Harris in un tempo molto breve.
I pidocchi sono altri parassiti comuni dei rapaci. I pidocchi si alimentano dei residui , delle piume e della pelle, tuttavia non sopravvivono fuori dell’ospite per lungo tempo e quindi il trattamento con preparazioni di insetticida è relativamente facile.
Al contrario l' acaro rosso del pollame ', sopravvive fuori dell’ospite per periodi considerevoli. Questo acaro vive in fessure del legno e solitamente esce soltanto la notte per alimentarsi. In questo caso un uccello se esaminato durante il giorno puo’ sembrare esente dai parassiti , mentre lo stesso uccello e’affetto dalla loro presenza la notte.
Tutti i parassiti che si nutrono di sangue possono essere facilmente e prontamente gestiti per mezzo di prodotti come Ivomec dei bestiami (MSD AgVet), che comunque dovranno essere diluiti. Le dosi ed i diluenti adatti possono essere stabiliti dal vostro medico veterinario.
Altri parassiti del sangue sono gestiti bene tramite l' uso degli insetticidi, comunque la cura deve essere usata soltanto se le preparazioni sono sicure. Alcuni spray contengono ingredienti attivi o propellenti, che possono essere tossici o irritare i polmoni. La nuova preparazione Frontline per le pulci di cani o gatti si e’ dimostrata sicura ed efficace su oltre 100 uccelli su cui e’ stata usata. Sembra essere non soltanto più efficace ma anche ben più sicura di altri prodotti precedentemente sperimentati sui parassiti .



Parassiti Interni
Molti allevatori , falconieri o riabilitatori svermano i loro uccelli annualmente o quando sono maneggiati e credono che tutto sia a posto. Questo concetto è seriamente sbagliato e può occasionalmente condurre a ripercussioni serie.
Fluke: (passera) è un comune parassita solitamente non patogeno dei rapaci. Possono abitare il piccolo intestino o i condotti della bile. La diagnosi è fatta soltanto su esame fecale ed anche se solitamente non patogena, quando presenti , dovrebbe essere eseguito un trattamento idoneo. La medicina che è usata più comunemente è il rafoxanide ad una dose di 10mg/kg, o praziquantel (droncit) 5-10mg/kg giornalmente per 14 giorni o chlorsulon (Curatrem) 20mg/kg per 3 mesi a intervalli di 2 settimane. L' esatta diagnosi, il consiglio sul trattamento e il farmaco saranno date dal vostro veterinario.

Tenie: le tenie sono un parassita relativamente comune, ma sono raramente patogene. La malattia clinica si presenterà soltanto nelle situazioni in cui c’ è un’ infestazione molto pesante, che può condurre ad un' ostruzione del piccolo intestino. Il trattamento utilizza il Praziquantel (Droncit, Bayer), che è disponibile sotto forma di compresse o di iniezioni e gli uccelli dovrebbero essere dosati 5-10 mg/kg o con chlorsulon come descritto precedentemente..


Ascaridi: questi sono il più grande e più significativo gruppo di parassiti interni. Il gruppo include i Syngamus e i Serratospiculum , che interessano rispettivamente la trachea e i polmoni. Entrambi causano disturbi respiratori negli uccelli infettati, comunque in entrambi i casi è particolarmente importante che la diagnosi sia fatta prima del trattamento dato. Nel caso di Syngamus anche dopo essere stati uccisi, rimarranno nelle vie aeree fino a sei settimane, in quanto si decompongono lentamente causando nel frattempo disturbi respiratori ed occasionalmente polmonite . Serratospiculum è il piu’diffuso in questo paese(Inghilterra) negli uccelli importati (che vengono dai paesi più caldi) il parassita in se non causa solitamente segni clinici e può vivere tranquillamente nei polmoni per parecchi anni. Tuttavia se questo viene ucciso si putrefarà velocemente causando spesso seri problemi ai polmoni e spesso la morte. Se il parassita è diagnosticato, il trattamento preferibile consiste nel trattare l' uccello quotidianamente per 14 giorni in ambiente riscaldato,e nella rimozione chirurgica del parassita dai polmoni.
Le sostanze che sono state usate nel trattamento degli ascaridi includono il pipeazine, il levamisole, i benzimidazolo (per esempio Panacur o Mebenvet o Pyrantel) e lo sverminatore (Ivomec). Alcuni di questi ora sono superati,inadatti ed inefficaci, altri hanno margini di sicurezza molto limitati e possono essere pericolosi, altri sono potenzialmente tossici in certi momenti dell' anno, altri sono sicuri.

Protozoi: Questo gruppo dei parassiti include ' la Tricomoniasi del pollame '. La sorgente più comune dell' infezione proviene dai piccioni. Molti falconieri credono che una pulizia accurata del piccione e evitando le interiora , la malattia può essere evitata; ciò non è affatto sicuro , persino il muscolo pettorale in se può trasportare l' agente infettivo. Tutto il piccione dovrebbe essere congelato in quanto questo trattamento uccide virtualmente tutti gli organismi. La malattia si manifesta con placche bianche nella bocca, nella gola o nel tratto digestivo. Tuttavia la circostanza deve essere differenziata dall' infezione con Capillaria, Candida o deficenza di vitamina A o l' erpes nei gufi. La diagnosi differenziale può essere fatta facilmente dal vostro veterinario. Il trattamento è con Carnidazole (Spartrix) 25mg/kg una volta. Il singolo trattamento in contrasto con il trattamento quotidiano precedentemente suggerito, rende la terapia mólto più facile, specialmente per gli uccelli selvatici o per i giovani in cattivita', ancora sul nido alimentati dai genitori .
Lo stesso gruppo di parassiti egualmente include i coccidi, che possono essere presenti e causare o non la malattia, a seconda del la specie esatta di coccidi implicata. Inoltre se la malattia accade i segni ed i trattamenti clinici richiesti saranno differenti. I coccidi sono in aumento e cio e ,dovuto a un' accumulo dell' infezione nei soggetti in cattivita’ . La malattia interessa soprattutto gli uccelli giovani, prima che sviluppino il loro sistema immunitario. La circostanza è trattata giornalmente con Toltrazuril (baycox) a 10mg/kg per tre giorni successivi, o con Clazuril (Appertex) a 5-10mg/kg una volta al giorno per tre giorni successivi. Giardia e Hexamita sono due ulteriori protozoi, che possono causare malattie cliniche.
Coccidiosi nei Merlins: come e’ noto alla maggior parte dei lettori , la coccidiosi nei Merlins è stata un problema in costante aumento per un certo numero di anni. In un documento , presentato al congresso sui rapaci nel 1991, un autore ha indicato questa come la più grande causa della morte dei Merlins in cattivita’. Da allora in poi è aumentata l’ incidenza e durante gli ultimi due anni a interessato un numero considerevole di Astori e Pellegrini. Anche se il regime terapeutico suggerito sopra è efficace per evitare la morte negli uccelli affetti non è ancora efficace completamente nello sradicamento dall' organismo degli uccelli. Di conseguenza determinati mesi dopo l' uccello cominciera’ a liberarsi ancora dell' organismo.. Questo spargimento condurrà a una contaminazione considerevole della voliera che condurra’, all' infestazione futura di altri uccelli. Generalmente soltanto uccelli giovani, o malati realmente soccomberànno alla malattia. Questa malattia è argomento di ricerca considerevole all' ospedale di veterinaria di Clockhouse. Siamo felici di esaminare gratis i campioni venuti da tutti i Merlins in cattivita’, a condizione che i proprietari siano in grado di trasmettere i campioni su una base mensile, normalmente. È soltanto tramite una ricerca continuativa che speriamo di poter infine ottenere risultati su questa malattia che ha implicazioni future serie per l' allevamento in cattivita’ dei rapaci, non soltanto nel Regno Unito ma anche in altre parti del mondo.
Soprattutto ,un fatto importante e’ che tutti i proprietari si rendano conto che nessun trattamento sarà efficace se non su determinati gruppi di parassiti. Il trattamento altrimenti condurrà ad un senso falso di sicurezza, e potra’risultare inutile e pericoloso. Prima di eseguire un qualsiasi trattamento,si dovra’ far esaminare dal vostro veterinario un campione fecale( rapidamente ed economicamente )dopo di che’ vi potra’ raccomandare e fornire l' agente più adatto .
All' ospedale veterinario di Clockhouse, facciamo funzionare un servizio veloce, efficiente e poco costoso per l’esame dei campioni. I proprietari che trasmettono un campione sono invitati a telefonare dopo 12 h. per avere il risultato.