Northern Goshawk เหยี่ยวนกเขาท้องขาว

Northern Goshawk - Accipiter gentilis
ลักษณะทั่วไป : เหยี่ยวนกเขาท้องขาวเป็นนกที่มีขนาดความยาวของลำตัวประมาณ 48-61 เซนติเมตร
มีลักษณะคล้ายกับนกตัวเมียของ เหยี่ยวนกกระจอกใหญ่ (Eurasian Sparrowhawk) เพียงแต่ว่ามันตัวโตกว่า จุดเด่น คือ มีแถบสีเข้มพาดผ่านหน้าเหนือตา กระหม่อม หน้าด้านข้างสีเข้มกว่าสีขน ท้ายทอย คอ ลำตัวด้านล่างมีสีเนื้อหรือขาว ท้องมีขีดสีน้ำตาลอมเทา ขณะบินจะสังเกตได้ว่าเป็นนกที่ปีกยาว อกค่อนข้างกว้าง หางสั้น ใต้ปีกสีอ่อนมาก ไม่มีลวดลายชัดเจนขนคลุมลำตัวด้านบนสีเทาเข้ม หรือน้ำตาลแกมเทา ขนหางด้านบนมีแถบสีเข้ม 4 แถบ
จะตัวโตกว่านกตัวผู้ ขนคลุมลำตัวด้านบนสีเทา มีแต้มสีน้ำตาลปะปน ตามีสีส้มอมเหลือง หรือบางตัวอาจจะมีสีส้มอมแดงลายที่ใต้ปีกจะเห็นได้ชัดเจนกว่านกตัวผู้
นกที่ยังไม่โตเต็มวัยลำตัวด้านล่างสีเข้ม และออกสีน้ำตาลมากกว่าตัวเต็มวัย สีออกขาวขุ่นหรือมีแต้มสีขาวแซมอยู่
แถบเหนือตาสีขาวขุ่นและจาง เห็นยังไม่ชัดเจน คอและลำตัวด้านล่างมีสีขาว มีขีดสีน้ำตาลเข้มชัดกว่าตัวเต็มวัย
ขนคลุมใต้หางมีขีดสีเข้ม เรียงกันไปตามความยาวของหางในขณะที่บินจะเห็นลายที่ใต้ปีกเข้มชัดกว่านกที่โตเต็มวัย และจะมีขีด
หรือจุดสีเข้ม ตัดกับสีขาวของขนบริเวณท้องด้านล่าง ตามีสีเหลือง
เป็นนกอพยพ



Scientific classification
Kingdom: Animalia Phylum: Chordata
Class: Aves
Order: Falconiformes (or Accipitriformes, q.v.)
Family: Accipitridae
Genus: Accipiter
Species: Accipiter gentilis

The Goshawk (Accipiter gentilis; from OE. g๓shafoc 'goose-hawk') is a medium-large bird of prey in the family Accipitridae, which also includes other diurnal raptors, such as eagles, buzzards and harriers.

Distribution :
It is a widespread species that inhabits the temperate parts of the northern hemisphere. In North America, it is called the Northern Goshawk. It is mainly resident, but birds from colder regions of north Asia and Canada migrate south for the winter.

Diet:
This species hunts birds and mammals in woodland, relying on surprise as it flies from a perch or hedge-hops to catch its prey unaware. These are usually opportunistic predators, as are most raptors, but the most important prey species are squirrels (especially less agile ground squirrels), galliforms, piciforms, and passerines. Other raptors, up to the size of Great Gray Owls, are sometimes preyed on. Prey is often smaller than the hunting hawk, but these birds will also regularly kill much larger animals, up to the size of hares and marmots.


Physical Description
The Goshawk is the largest member of the genus Accipiter. It is a raptor with short broad wings and a long tail, both adaptations to manoeuvring through trees. The male is blue-grey above and barred grey below, 49-57 cm (19"-22") long with a 93-105 cm (37"-41") wingspan. The much larger female is 58-64 cm (23"-25") long with a 108-127 cm (42"-50") wingspan, slate grey above grey below. Males of the smaller races can weigh as little as 630 grams (1.4 pounds), whereas females of the larger races can weigh as much as 2 kg (4.4 lbs). The juvenile is brown above and barred brown below. The flight is a characteristic "slow flap – slow flap – straight glide".

In Eurasia, the male is sometimes confused with a female Sparrowhawk, but is larger, much bulkier and has relatively longer wings. In North America, juveniles are sometimes confused for the smaller Sharp-shinned Hawks and Cooper's Hawks, but the size again is a distinctive feature of the goshawk.


Reproduction
In the spring breeding season, the goshawk has a spectacular roller-coaster display, and this is the best time to see this secretive forest bird. At this time, the surprisingly gull-like call of this bird is sometimes heard. Adults return to their nesting territories by March or April and begin laying eggs in April or May. These territories almost include tracts of large, mature trees that the parent will nest in. The clutch size is usually 2 to 4, but anywhere from 1 to 5 eggs may be laid. The eggs average 59 x 45 mm (2.3 x 1.8 in) and weigh about 60 g (2.1 oz). The incubation period can range from 28 to 38 days. The young leave the nest after about 35 days and start trying to fly another 10 days later. The young may remain in their parents territory for up to a year of age. Adults defend their territories fiercely from everything, including passing humans, so even the eggs have few predators. Birds of any age may be attacked, rarely, by Bubo owls and large Buteo hawks, but these often cede to or are themselves killed by the aggressive goshawk.

Conservation
In Britain the Goshawk became extinct in the 19th century because of specimen collectors and persecution by gamekeepers, but in recent years it has come back by immigration from Europe, escaped falconry birds, and deliberate releases. The main threat to goshawks internationally today is the clearing of forest habitat on which both they and their prey depend.

http://en.wikipedia.org/wiki/Goshawk







การกระจายพันธุ์ของพันธุ์ย่อยต่างๆ

Accipiter gentilis (Linnaeus) 1758
ชื่อมาจากภาษาละตินgentilis=noble สูงศักดิ์ สง่า
รวมความว่าเหยี่ยวที่สง่างาม
ชื่ออังกฤษ Northern Goshawk
ชื่อไทย เหยี่ยวนกเขาท้องขาว (เพิ่มเติมโดยผู้แปล)
สถานะภาพ นกอพยพในฤดูหนาว
ขนาด ยาว 47-59 ซม. ปีกกว้าง 106-131 ซม. เทียบสัดส่วนลำตัวและปีก2.0 เทียบสัดส่วนปีกและหาง 0.52

ในบรรดานกนักล่า เหยี่ยวสกุล Accipiterมีปริมาณมากที่สุด โดยส่วนมากมีขนาดเล็ก แต่สำหรับเหยี่ยวนกเขาท้องขาวกลับมีลักษณะพิเศษสุด เพราะมีขนาดใหญ่สุด เพศเมียมีขนาดเกือบเท่าเหยี่ยวขนาดใหญ่ เมื่อเปรียบเทียบปีกที่กางออกทั้งสองข้างกับสกุลเดียวกันแล้วใหญ่เกือบสองเท่า ด้วยประการเช่นนี้ชื่อญี่ปุ่นเรียก “เหยี่ยวใหญ่” นอกจากนี้เหยี่ยวนกเขาท้องขาวแพร่กระจายในเขตอบอุ่นทางซีกโลกเหนือ เป็นเหยี่ยวชนิดเดียวที่แพร่กระจายอยู่ในโลกเก่าและโลกใหม่ จนเป็นที่เลื่องลือมาแต่โบราณ ถือเป็นเหยี่ยวบรรดาศักดิ์ที่นักฝึกเหยี่ยวต้องการครอบครอง เพราะความสามารถรอบด้านที่มันสามารถไล่ล่าเหยื่อนกขณะที่บินในป่า หรือกระต่ายป่าในทุ่งหญ้า

เหยี่ยวนกเขาท้องขาวปรับตัวเข้าได้ดีกับสภาพอากาศหนาวเย็นในเขตอบอุ่น ดังนั้นจำนวนมากที่อพยพลงใต้เพียงระยะสั้นๆเล็กน้อยในช่วงฤดูหนาวก็เพียงพออยู่รอดได้ มีปริมาณน้อยนิดที่อพยพเป็นระยะทางไกล ดังนั้นเอเซียอาคเนย์จึงมีบันทึกไม่มากนัก และที่ไต้หวันก็เป็นเช่นนี้ แม้จะมีข้อมูลเก่าเก็บจนถึงปี1980ที่มีปริมาณนักดูนกกระตือรือร้นอย่างยิ่ง แต่การรายงานกลับน้อยมาก จนกระทั้งเริ่มมีโครงการสำรวจเหยี่ยวอพยพที่กวานยินซานในปี1991 จึงพบว่าแต่ละปีจะมีเหยี่ยวนกเขาท้องขาวอพยพกลับขึ้นเหนือเป็นประจำทุกปี ในปริมาณที่คงที่สิบกว่าตัว

การจำแนกเหยี่ยวนกเขาท้องขาวไม่ยาก ที่เรียกว่า“ชังยิง”เพราะชุดสีขนกลางหลังของตัวเต็มวัยเป็นสีเทา แต่ที่ไต้หวันจะพบนกเด็กที่มีสีน้ำตาล จึงง่ายที่จะใช้เอกลักษณ์นี้ในการแยกแยะ นอกจากนี้ท่วงท่าลีลาในการบินของมันก็หนักแน่น เมื่อวนร่อนจะเชื่องช้ากว่าเหยี่ยวชนิดอื่น จะใช้การกระพือปีกช่วยเวลาร่อนเป็นเส้นตรง กระพือปีกเร็วมีพลัง อยู่โดดๆทั้งชนิดอพยพผ่านหรือพักในฤดูหนาว อุปนิสัยกร้าวร้าว ในระหว่างบินจะจู่โจมเหยี่ยวชนิดอื่นแม้คู่ต่อสู้จะใหญ่กว่าก็ตาม

เวลา
• เดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคมเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด ตามชายฝั่งทางเหนือโดยเฉพาะเฝ้าสังเกตได้ที่กวานยินซาน วันที่มีอากาศอบอุ่นช่วงเวลา10-13น.
• ฤดูหนาวอาจพบได้โดยบังเอิญที่ระดับน้ำทะเลปานกลางในป่าเขา ซึ่งแล้วแต่ดวง โอกาสพบสูงในวันที่ท้องฟ้าโปร่งอากาศอุ่น

ถิ่นอาศัย
• ข้อมูลบันทึกในฤดูหนาวมีน้อยมาก จึงยากที่จะคาดคะเนถึงแหล่งพักพิงในฤดูหนาว
• มีข้อมูลเมื่อไม่นานมานี้พบที่ระดับน้ำทะเลปานกลาง ดังนั้นผู้แต่งจึงอนุมานไว้ที่ป่าเขาระดับน้ำทะเลปานกลาง1000-2000เมตร มักพบอาศัยตามชายขอบป่าเขา หรือเกาะกิ่งไม้เป็นเวลานาน
• โอกาสที่นักดูนกจะได้พบต่ำอย่างยิ่งเพราะปริมาณน้อย ใครที่ยากวัดดวงดูก็ลองได้ที่ พื้นที่เกษตรเชิงเขาอู่หลิน พื้นที่เกษตรเชิงเขาฟู่โซ่วซาน ซึ่งทำการเกษตรเชิงเขา
• เป็นการง่ายที่จะพบได้ที่กวานยินซานในช่วงอพยพกลับในเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม ซึ่งบางตัวอาจแวะพัก ทำให้วันหนึ่งมีโอกาสพบได้หลายครั้ง
• ได้มีบันทึกพบตามป่าเขาชายฝั่งทะเลตอนเหนือ ซึ่งบางตัวใช้แวะพักในช่วงอพยพ

ลักษณะ
• เต็มวัย เพศผู้และเพศเมียคล้ายกัน ใบหน้าเทาดำ มีคิ้วขาวชัดเจน ม่านตาเหลือง สีส้มเมื่ออายุมาก หนังคลุมโคนปากเหลืออมเขียว จะงอยปากสีเทาเงิน กลางหลังสีเทา สีน้ำเงินเทา หรือ น้ำตาลเทา ส่วนท้องสีขาว มีขีดจางๆสีดำใต้คาง ใต้คอลงมามีขีดปะละเอียดสีน้ำตาลเทา หางสีน้ำตาล หรือเทาเข้ม แถบหางสี่แถบ ใต้หางสีขาว เท้าเปลือย ขาสีเหลือง หางยาว ปลายปีกยาวครึ่งหนึ่งของหาง เพศเมียมีขนาดใหญ่กว่าอย่างเด่นชัด โดยหลังสีน้ำตาลกว่า ใบหน้าแต้มสีขาวมากกว่า ขีดสีท้องหยาบกว่า
• นกเด็กใบหน้าสีน้ำตาล ประกอบด้วยขีดเล็กๆ คิ้วเหลืองจาง ไม่เด่นชัดเหมือนตัวเต็มวัย ม่านตาเหลืองอมเขียว หลังสีน้ำตาลแซมด้วยขนขาว ท้องสีน้ำตาลอ่อน กระจายเต็มด้วยดวงสีน้ำตาลดำ แถบขีดข้างคอเล็กยาว เข้าสู่ชุดขนเต็มวัยเมื่อขวบปีที่สาม

ลักษณะบิน
• ลำตัวหนา คอค่อนข้างยาว เชิดหัว อกโปนลักษณะนกพิราบ ปีกกว้างยาวกว่า Accipiterชนิดอื่น ปีกแตก6นิ้ว หางยาวมน ขนหางเส้นกลางดูยาวยื่นกว่า เห็นเด่นในนกเด็ก เมื่อคลีออกเต็มที่ลักษณะมนเป็นรูปพัดโค้ง ทำให้เหมือนพื้นที่หางมากกว่า Accipiterชนิดอื่น
• ตัวเต็มวัยท้องขาว แม้แต่ชนิดย่อยก็ยังมีสีอ่อน มองเห็นได้ชัดเจนแม้ในระยะไกล
• ขณะที่บินวนจะยกปีกขึ้นเล็กน้อย แซมด้วยการตีปีก ตีปีกเร็วมีพลัง

เปรียบเทียบชนิดอื่น
• เหยี่ยวนกเขาหงอน รูปร่างเล็ก ปีกกลมสั้นไม่เห็นนิ้ว เวลาหุบหางดูบอบบาง ไม่เว้า ขนท้องสีเข้ม มีขีดกลางคอ เวลาบินจะสะบัดปีก ปีกทั้งสองอยู่ในระนาบเดียวกัน
• เหยี่ยวนกกระจอกใหญ่ รูปร่างเล็กและเปรียวยาว ปีกสั้น หางรูปตัดแคบยาวบาง อกไม่โปนลักษณะนกพิราบ ท้องไม่ลายทั้งในวัยเด็กและเต็มวัย เวลาบินกระพือปีกเร็ว

แปลจาก
Lin,Wen Horn and Cheng, Civi. 2006. A field Guide to the Raptors of Taiwan. p.82-87 Yuan-Liou Publishing Company
original Chinese edition "A Field Guide to the Raptors of Taiwan " /text by Wen-Horn Lin; illustration by Civi Cheng/Yuan-Liou Publishing Company http://www.ylib.com

นำมาจาก Bloggang.com : กรกส

The English name derives from the Anglo-Saxon for "Goose Hawk". The scientific name was given during the middle ages when only noblemen were allowed to fly them. "Accipiter" is Latin for hawk & "gentilis" comes from the Old French "gentil" meaning noble (which is where the English words Gentleman & Gentry are derived & ultimately from the Latin "gentilis"), so the scientific name means "Nobleman's Hawk".

Goshawks are widely distributed throughouth the northern hemisphere, in Europe, Russia, North America & Canada. They are strictly woodland birds. Once primarily living in deciduous forests, they are now adapting to the extensive man-made conifer plantations, where game-breeding is rare. The population both in the UK & the US appears to be on the decline. In the US they are classified as a "Species Of Federal Concern".

The Northern Goshawk is the largest of the "True Hawks". The Goshawk became extinct in this country in the late 19th century, due to illegal killing & habitat loss. Goshawks were unofficially reintroduced into the country from 1950's by falconers, both as escapees & deliberate releases, it is believed over 250 birds were released into the wild during the 1970's. The estimated UK population in 1996 was 400-450 pairs. The main risk to Goshawks is still illegal killing, often to protect game birds, so that rich people can shoot them. Despite the belief that Goshawks have a significant effect on game bird populations, studies have shown that they will take pigeons & other birds in preference & actually kill very few game birds. The Goshawk is a species protected by special penalties in the UK, if kept in captivity, it must be ringed & registered.

Goshawks are very similar in appearance to sparrowhawks, though larger. It is not unusual for a male goshawk to be mistaken for a female sparrowhawk. As well as being bigger, Goshawks are more sturdily built, with more powerful legs & feet, giving them the ability to catch mammals heavier than themselves.

Goshawks prey on medium size to large birds & mammals. The birds range in size from starlings & pigeons to grouse. Mammals range in size from rats & young rabbits to hares & even foxes. It has been observed that individual birds may show a preference for one type of prey. Prey is taken out of the air, on the ground or even out of the trees. They usually fly directly at the prey in rapid flight, but occassionally will use available cover, such as hedges, to take the prey by suprise. Goshawks are capable of incredible bursts of speed when chasing prey. In powered flight, Goshawks take several strong, stiff wingbeats, followed by a short glide. The short wings & manouevrable tail enable the bird to rapidly turn & brake, in pursuit of its prey. Despite this excellent manoeuvrability, goshawks often injure themselves while chasing their prey. They are totally focused on their prey & collide with obstacles in their way. Fortunately, this rarely results in death. Once the goshawk has caught its prey, it will usually return to a favourite perch & pluck the prey before eating it. Quite often, the entrails will also be removed first.

In courtship, the female attracts the male by perching near a suitable nesting site & calling. The male will either build a new nest or rennovate & old one. Old nests are regularly reused by a succession of different pairs of Goshawk. The nests are usually high up & under good cover of a canopy of leaves, giving protection from predators (e.g. Great Grey Owls, Pine Martens & wolverines, in the US) & the weather. (One source suggests mating takes place from the start of nest building & through much of the incubation period, often up to 10 times daily.) Up to five eggs are laid, with 1 or 2 days between each, generally starting in late April. Incubation properly starts after the last egg has been laid. Incubation is only done by the female & lasts for around 5 weeks. The young all hatch at around the same time. Once hatched, the female will vigourously defend the nest, they have been known to attack humans. The young sprout feathers at around 18 days, by 28 days they can feed themselves, they are fully feathered by 38 days & can fly a week later. Up to the stage of feeding themselves, the male does not often approach the nest, leaving the food a short distance away & calling to the female to collect it. The young males are smaller & lighter than the females & often fly much earlier them. It takes around 10 weeks from the first flight for the young to become totally independent.



The Goshawk is popular bird in falconry, being regarded by some as the ultimate hunting bird. In general, they are difficult to train & require daily manning otherwise they lose their training very quickly. Goshawks can be nervous temperament & prone to tantrums, so are really only suitable for very experienced falconers, many are lost due to inexperience (these are some of the ones adding to the wild population)